วันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2556

การปฏิวัติประชาธิปไตย และผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสาม จูเลียส ซีซาร์, ออกัสตัส ซีซาร์, มาค แอนโทนี่

ประวัติศาสตร์โลกที่น่าสนใจมากช่วงหนึ่งคือ การเกิดขึ้นของ "จักรวรรดิโรมัน"


ซึ่งเกิดจากการใช้สงครามยึดเมืองหลายๆ เมืองในยุโรป และส่งผลให้ยุโรปหลายประเทศมีวัฒนธรรมร่วมกัน คือ วัฒนธรรมของโรมัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนถ่ายอำนาจจาก "จักรวรรดิกรีก" ซึ่งกำลังล่มสลายลง ไปสู่จักรวรรดิโรมัน สิ่งหนึ่งที่ถูกเปลี่ยนตามไปด้วยคือ "ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย" ซึ่ง เดิมเป็นการปกครองของกรีก และสืบทอดมาถึงโรมันด้วยบางส่วน คือ การประชุมโหวตความคิดเห็นร่วมกัน ของกรีกจะเริ่มต้นจากประชาชนทุกคนมาร่วมกัน แต่ของโรมันจะเหลือเพียง "รัฐสภา" ซึ่งประำกอบด้วยคณะผู้มีอำนาจทางการเมืองหลายคน เอาละ เรามาศึกษาประวัติศาสตร์ช่วงนี้แบบง่ายๆ กัน ก่อนที่แต่ละท่านจะไปหาข้อมูลที่ละเอียดขึ้นต่อไป ดังนี้


จูเลียส ซีซาร์ เป็นนักการทหารชั้นยอด ที่รบชนะทั่วไปหมด จึงสามารถยึดเมืองต่างๆ ซึ่งเคยเป็นของกรีกได้ ทำให้อาณาจักรโรมันแผ่ขยายครอบคลุมหลายประเทศในยุโรปปัจจุบัน ทว่า เขามีแนวคิดด้านการปกครองที่ต่างไปจากพวกกรีก คือ เขาต้องการรวมอำนาจไว้ที่คนๆ เดียว เพื่อความเป็นเอกภาพในการตัดสินใจ ทั้งยังประกาศว่าจะเผด็จการครองอำนาจตลอดชีิวิตอีกด้วย ส่งผลให้เขาถูก "ลอบฆ่า" โดยที่ยังไม่ได้อำนาจทางการเมืองอย่างสมบูรณ์ และยังไม่ได้เป็นกษัตริย์ อนึ่ง พึงเข้าใจว่ากษัตริย์ในยุึคนี้ ไม่ได้มีอำนาจเบ็ดเสร็จ เพราะทุกอย่างต้องผ่าน "รัฐสภา" และอำนาจของรัฐสภานี้เอง ที่ทำให้จูเลียส ซีซาร์ต้องถูกลอบฆ่า (เืพื่อไม่ให้เขาใช้ระบบเผด็จการ) ในระหว่างนั้น มีคนสำคัญอีกสองท่าน คือ ออกัสตัส ซีซาร์ และ มาค แอนโทนี่ ทั้งสองคนได้ร่วมกันเพื่อก่อตั้งอาณาจักรโรมันด้วย (แล้วแย่งอำนาจกันทีหลัง)


โดย มาค แอนโทนี่ ได้ร่วมรบเป็นแม่ทัพคนหนึ่งมาตลอด เรียกว่าคู่กันมากับจูเลียส ซีซาร์ แต่ไม่โดดเด่นเท่า (เนื่องจากทหารทั้งหลายต่างรวมใจอยู่ที่จูเลียส ซีซาร์คนเดียวเท่านั้น) มาค แอนโทนี่ แม้ไม่เก่งทางการสงครามเท่ากับจูเลียส ซีซาร์ แต่เรื่องการเมืองเขาทำได้ดีกว่า ดังนั้น เขาจึงไม่ถูกลอบฆ่าตาย และยังได้ร่วมกับออกัสตัส ซีซาร์ (ซึ่งเป็นบุตรบุญธรรมและทายาททางการเมืองของจูเลียส ซีซาร์) เพื่อจัดตั้งระบบ "สามผู้มีอำนาจ" ปกครองอาณาจักรโรมันร่วมกัน ซึ่งตอนนั้น ออกัสตัส ซีซาร์ ยังอายุไม่มาก คือ เป็นคนรุ่นลูกของมาค แอนโทนี่ และจูเลียส ซีซาร์ ดังนั้น จึงไม่อาจมีใครครองอำนาจเบ็ดเสร็จได้ ต่อมา มาค แอนโทนี่ ได้นำทัพช่วยเหลือ "ครีโอพัตรา" ให้อำนาจแก่ครีโอพัตรา ทั้งยังมีลูกด้วยกันด้วย (ซึ่งจูเลียส ซีซาร์ ก็มีลูกกับครีโอพัตรา) ภายหลัง เมื่อความคิดเห็นไม่ลงรอยกัน จึงเกิดการแย่งชิงอำนาจกันขึ้นระหว่างมาค แอนโทนี่ และ ออกัสตัส ซีซาร์ ผลคือ มาค แทนโทนี่แพ้สงคราม แล้วฆ่าตัวตาย


ส่วน ออกัสตัส ซีซาร์ นั้น นับว่าทางการรบก็เก่ง ทางการเมืองก็เหนือกว่ามาค แอนโทนี่ สังเกตุจากอะไร? ก็ดูจากการทำทัพสู้กับมาค แอนโทนี่ แล้วได้ชัยชนะ ทั้งยังเดินเกมการเมืองอย่างระวังกว่าพ่อบุญธรรม จึงไม่ถูกลอบฆ่าเหมือนจูเลียส ซีซาร์ ในที่สุด "รัฐสภา" ก็ยอมรับอำนาจของออกัสตัส ซีซาร์ ทั้งยังยอมให้เขาเผด็จการได้ ยอมรับการรวบอำนาจของออกัสตัส ซีซาร์ด้วยการแต่งตั้งให้เขาด้วยนาม "ออกัสตัส"  อันหมายถึง "ผู้ได้รับการเคารพสูงสุด" (ประมาณนั้น) ว่าให้มีอำนาจเหนือรัฐสภา คือ ไม่ต้องโหวตผ่านรัฐสภา ก็สามารถตัดสินใจได้เอง เรียกว่ามีอำนาจเผด็จการได้ นั่นเอง ดังนั้น ออกัสตัส ซีซาร์ จึงมีแนวคิดเผด็จการไม่ต่างจากจูเลียส ซีซาร์ เป็นทายาททางการเมืองโดยแท้ แต่เขาทำได้สำเร็จเพราะความสุขุมรอบคอบกว่า นั่นเอง ในที่สุด จักรวรรดิโรมันก็เกิดขึ้น โดยมีออกัสตัส ซีซาร์ เป็นปฐมกษัตริย์


ถามว่าทำไม ประวัติศาสตร์ยุโรปช่วงนี้น่าสนใจ คำตอบคือ


๑. มีการเปลี่ยนแนวคิดจากระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยแบบกรีก เป็นระบบการปกครองแบบเผด็จการโดยกษัตริย์ ซึ่งส่งผลให้อาณาจักรโรมัน ยิ่งใหญ่เกรียงไกร และยึดครองอาณาจักรกรีกได้

๒. มีการรวมแผ่นดินให้เป็นหนึ่ง ทำให้เกิดวัฒนธรรมร่วมกันของประเทศยุโรปหลายประเทศ ตกทอดมาสู่ยุคปัจจุบัน เหมือนการรวมตัวกันของกลุ่มประเทศอียู และการรวมตัวกันของกลุ่มประเทศ AEC (อาเซียน)

๓. มีการล่มสลายลงของอาณาจักรกรีก ซึ่งใ้ช้การปกครองระบอบประชาธิปไตย ซึ่งคล้ายกับเหตุการณ์ปัจจุบันที่ประเทศกลุ่มทุนนิยม กำลังเสื่อมอำนาจลง และประเทศกลุ่มสังคมนิยม กลับมีอำนาจมากขึ้น


สำหรับอาณาจักรโรมันนั้น ช่วงยุคกลาง ได้มีการตั้งเมืองหลวงแห่งที่สองขึ้นเรียกว่า "โรมันตะวันออก" โดยนักบุญที่ชื่อ "คอนสแตนติน" (ภายหลังได้รับการยอมรับเป็นกษัตริย์องค์หนึ่งต้นราชวงศ์ไบแซนไทน์)   ผลคือ ทำให้เกิดการแตกแยกออกเป็นสองเมืองหลวงอย่างเงียบๆ (เมืองหลวงใหม่ หรือ โรมันตะวันออกแรกๆ จะไม่เปิดเผยตัวเองชัด จนเมื่อโรมันตะวันตกเสื่อมอำนาจจึงเผยตัวตน แสดงจุดยืนขึ้นมา) ซึ่งมีสิ่งที่สำคัญเกิดขึ้นคือ กษัตริย์คอนสแตนติน ได้ยอมรับ "ศาสนาคริสตร์" ชาวคริสตร์ในเมืองนี้ ได้รับการยอมรับ ซึ่งเดิมชาวโรมันจะนับถือเทพเจ้ากรีก รับวัฒนธรรมมาจากกรีกก่อน ภายหลัง การปฏิวัตินี้เองทำให้เกิดผลทั้งสองทางคือ ทางการเมือง กลายเป็นเมืองหลวงใหม่และกลายเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรโรมันตะวันออกในที่สุด ทางวัฒนธรรม ทำให้โรมันตะวันออกมีวัฒนธรรม, ศาสนาของตัวเอง ต่างจากอาณาจักรกรีก นับว่าเป็นการวางรากฐานที่มั่นคงอย่างเงียบๆ และรอคอยโอกาสอย่างเหมาะสม เมื่อโรมันตะวันตกอ่อนแอลง ในที่สุด โรมันตะวันออกก็ยึดอำนาจไป เกิดเป็นอาณาจักรโรมันใหม่ขึ้นมา


ผมคิดว่า ประัวัติศาสตร์ยุโรปช่วงนี้ น่าจะให้คำตอบอะไรแก่ท่านบ้าง ถึงสถานการณ์ปัจจุบันครับ ...



1 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

จะเห็นได้ว่า "ออกัสตัส ซีซาร์" ได้รับแนวคิดทางการทหาร
และระบอบรวมอำนาจมาจาก "จูเลียส ซีซาร์" ในฐานะบุตร
และได้รับแนวคิดทางการเมืองมาจาก "มาค แอนโทนี่" ซึ่ง
ก็คือ ผู้ร่วมกันก่อตั้งระบบการปกครองในช่วงแรกๆ


โดยมี "ครีโอพัตรา" แห่งอียิปต์ คอยใช้ความงามเป็นอาวุธ
ยุยงให้เกิดความขัดแย้งกันเองของผู้นำสำคัญของโรมัน ซึ่งก็
ถูกปราบโดยออกัสตัส ซีซาร์ ในเวลาต่อมา ทำให้อียิปต์นั้น
ล่มสลายลงไปด้วยเช่นกัน

แสดงความคิดเห็น