Conspiracy

Conspiracy หรือทฤษฎีสมคบคิดตามภาษาไทย หมายถึง "ความไม่จริงที่สร้างได้จากการทำให้คนเชื่อ" โดยการสมคบคิดกัน หรือร่วมกันพูดในทางเดียวกันมากๆ เช่น ใ้ช้สื่อหลากหลาย กล่าวถึงสิ่งๆ หนึ่งว่าดีงาม หรือเลวร้ายก็ได้ ซึ่งปกติ มักเอาความจริงแ่ค่บางส่วนมานำเสนอเพื่้อก่อให้เกิดพลังโน้มน้าวให้เชื่อตาม ไม่ได้ให้ความจริงแท้ หรือความจริงทุกด้าน แต่เนื่องจาก "มีคนพูดมาก ใครๆ ก็เชื่อ" ก็เลยทำให้คนส่วนใหญ่ถูกทำให้คล้อยตามได้ง่ายๆ ดังรายละเอียดตาม วิกิพีเดีย ดังต่อไปนี้

ทฤษฎีสมคบคิด (อังกฤษConspiracy Theory) คือ เรื่องเล่า บทความที่สร้างขึ้นมาจากความคิดของคน หรือกลุ่มคน โดยนำเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาปะติดปะต่อเข้าด้วยกัน ซึ่งอาจมีวัตถุประสงค์ซ่อนเร้นอื่นๆเพื่อให้ประโยชน์/ให้โทษต่อบุคคลหรือกลุ่มบุคคลหนึ่งใด หรืออธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลักษณะของทฤษฎีสมคบคิดโดยทั่วไปมีข้อเท็จจริงประกอบอยู่เพียงเล็กน้อย หรือส่วนหนึ่ง เพียงเพื่อเสริมให้เกิดความน่าเชื่อถือว่ามีหลักฐานสนับสนุนที่ดูเหมือนเกี่ยวข้องกันเท่านั้น อาจมีเหตุผลสนับสนุนจากความเชื่อส่วนบุคคล ความเชื่อเกี่ยวกับทางศาสนา การเมือง หรือวัฒนธรรมที่แตกต่างไป เรื่องเหล่านี้นักวิชาการจะไม่ใช้อ้างอิง ผู้อ่านควรใช้วิจารณญานก่อนที่จะเชื่อเรื่องนั้นๆ ประเทศสหรัฐอเมริกามีหน่วยงานที่จะดูแล และกลั่นกรองเรื่องเหล่านี้โดยเฉพาะ

เดิมพบได้ในคอลัมน์เล็กๆหนังสือพิมพ์ประเภทเทบลอยด์ในต่างประเทศ ปัจจุบันพบได้มากในฟอร์เวิร์ดเมล เว็บไซต์ส่วนบุคคล และบล็อกต่างๆ

ตัวอย่างของทฤษฎีสมคบคิด



จบ (ส่วนวิกิพีเดีย) ....

(ความคิดเห็นจากผู้เขียน)
ทฤษฎีนี้ถูกใช้มากทั่วไป เช่น การโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้คนเชื่อ คล้อยตามในเรื่องต่างๆ เช่น การทำให้คนเชื่อและนิยมประธานาธิบดี ก็ต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลในการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ แม้ว่าเขาจะมีข้อเสียมากมาย แต่ผู้คนทั้งหลายจะไม่ทราบเลย แต่จะคิดว่าเขาเป็นคนดีอย่างยิ่ง แน่นอน คลั่ง และศรัทธาเขาอย่างงมงาย เป็นต้น ในประเทศไทยเราก็ใช้กันอย่างแพร่หลาย สื่อต่างๆ ก็เป็นเครื่องมือตอบสนองให้กับผู้ใช้ทฤษฎีเหล่านี้ให้เกิดผลจริงในภาคปฏิบัติ การสร้างภาพให้ใครดูเป็นคนดี และใครดูเป็นคนเลว ก็ใช้หลักการนี้เช่นกัน ผ่านสื่อต่างๆ คนที่ไม่เข้าใจหรือตกเป็นเหยื่อก็จะคลั่งไคล้เขาได้ง่ายๆ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น