วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

"อำนาจอื่นภายนอก" ที่พลเอกประยุทธ์กล่าวถึง คืออะไร?

หนังสือพิมพ์บ้านเมือง -- พฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน 2555


"อยากถามกลับไปว่า ลงนามได้หรือไม่ และผิดกติกาอะไรหรือไม่ ถ้าลงนามได้ก็ลงนามไป หากไม่คิดว่าประเทศชาติเสียประโยชน์ก็ลงนามไป และประชาชนทั้งประเทศก็ดูเอาเองว่าถูกหรือไม่ และใช่หรือไม่ เพราะผมก็ไม่ทราบ ทุกคนต้องมาร่วมรับผิดชอบประเทศชาติด้วยกัน ไม่ใช่ไอ้นี่ทำอย่าง ไอ้โน่นทำอย่าง ผมว่าไม่ใช่ประเทศไทยไม่ได้อยู่แบบนี้ เพราะเราอยู่ด้วย 3 ระบบ คือ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายตุลาการ หาก 3 ระบบนี้ยุ่งมันก็ไม่ใช่ประเทศแล้ว ขณะนี้ 3 อำนาจยังอยู่หมด เพราะฉะนั้นอย่าไปหาอำนาจอื่นภายนอกให้มายุ่งวุ่นวายมากนัก แค่นี้ก็ยุ่งพออยู่แล้ว ซึ่งก็แล้วแต่ท่าน ทำก็รับผิดชอบกันไป" โดยพลเอกประยุทธ์ ............

เอาละ วันนี้ ผมจะมาขยายความหมายของคำว่า "อำนาจอื่นภายนอก" ที่ออกจากปากของพลเอกท่านนี้ ให้ท่านทั้งหลายทราบ แต่บอกไว้ก่อนนะครับ "นี่คือ ความคิดเห็นของประชาชนคนหนึ่งตามระบอบประชาธิปไตย" ผมไม่ได้มีเจตนาล่วงเกินใครทั้งสิ้น เพียงสงสัย แล้วก็แสดงความคิดเห็นไปก็เท่านั้น


อำนาจอื่นภายนอกก็คือ "อำนาจของอภิมหาอำนาจ" สองขั้วครับ เพราะทำอย่างไรได้ละ ในเมื่อเสื้อแดงมี "จีนหนุนหลัง" ฝ่ายเสื้อเหลือง ก็ต้องหา "อเมริกา" หนุนหลังให้เหมือนกัน เพื่อคานอำนาจกันให้สมดุล นั่นเอง ดังนั้น ท่านก็เห็นอยู่ไม่ใ่ช่หรือว่า "โอบาม่า" มาไทย ทันทีต้องทำกิจใด? เอาละ ไม่อยากพูดมาก ทหารเขาคงเริ่มมีใจรักชาติจริงๆ ไม่ใช่เป็นควายให้ใครสนทะพายหลอกใช้งานอีกแล้ว ทหารเขาก็มีเกีรยติภูมิ หลังจากถูกหลอกใช้งานมาก็มาก ให้ปฏิวัติแล้วไม่ได้อะไร กลับต้องมานั่งรับผลร้ายในภายหลังมาก็มาก สุดท้าย เขาก็ "ตาสว่าง" ทำเพื่อชาติครับ ไม่ใช่ทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง เขาเข้าใจดีว่าปัจจุบัน เรามีระบอบการปกครองประชาธิปไตย ไม่ใช่ระบบเจ้าขุนมูลนายดังกาลก่อน และไม่ใช่พวกหลงเพ้อในอดีต ฝันเฟื่องในเรื่องวันวานที่ผ่านพ้นไปแล้ว เขาต้องเดินหน้านำพาประชาธิปไตยไปต่อครับเขาก็เลยไม่ชอบ อะไรที่กบฏต่อประชาธิปไตย (อะไรที่กบฎต่อประชาธิปไตย ฝ่ายเสื้อแดงเรียกว่า "ใส้ติ่ง" แต่ผมว่ามันไม่น่าจะใช่เลยครับ เพราะตอนนี้มันเริ่มกลายเป็น "เนื้อร้าย" มากกว่าใส้่ติ่งไปแล้วละครับ) เขาเลยให้ใช้อำนาจตามระบบ ระบอบประชาธิปไตย เท่าที่มี ก็พอ มีขนาดนี้แล้วยังไม่พอกันอีก ยังไปดึงเอาอำนาจ "นอก" เข้ามาเล่นงานกันอีก ประเทศไม่แย่ไปกว่านี้หรือครับ? อย่างนี้เขาเรียกว่า "ชักศึกเข้าบ้าน" ทั้งสองฝ่ายนั่นแหละ ตัวดีนัก คนหนึ่งก็ดึงเอาฝ่ายซ้ายเข้ามาครอบงำบงการเบื้องหลังบ้านเรา คนหนึ่งก็ดึงเอาฝ่ายขวามาหนุนหลังคอยยุยงปั่นป่วนให้เกิดการปฏิวัติ เอามันเข้าไป ประเทศจะเป็นอย่างไร มันไม่สนใจกันแล้ว มันสนใจแต่ว่า "อำนาจจะอยู่ในมือใคร" ก็เท่านั้นเอง นี่แหละ ถึงขนาดทหารเขาออกมาประกาศชัดเจนขนาดนี้แล้ว "สำนึกบ้างหรือไม่?" ก็ลองไปคิดทบทวนกันเอาเองนะครับ เพราะประเทศไทยตอนนี้ "ถูกรุมโทรมกระทำชำเรา" อย่างหนัก จากคนที่อยากได้อำนาจ แย่งกันไปมา จนประเทศจะไม่เหลืออะไรดีอยู่แล้ว โอกาสดีๆ เข้ามาเมื่อไร ก็หมดไปเมื่อนั้น ประเทศอื่นๆ รอบบ้านเราหลายประเทศ เขาคว้าฉวยโอกาสนี้สร้างชาติเจริญไปถึงไหนกันแล้ว เรายังมามัว "แก่งแย่งอำนาจ" กันถึงขนาด ชักศึกเข้าบ้าน เอาต่างชาติมาหนุนหลัง เพื่อเอาชนะกันไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ต่างอะไรกับ "เด็กวัยรุ่นตีกันเลย" ผิดทั้งคู่ ไม่ต้องมาโบ้ยความผิดให้ใครหรอก ถ้าคนหนึ่งกระทำ อีกคนเป็นฝ่ายถูกกระทำแต่ข้างเดียว ก็ว่าไปอย่าง ศาลรับฟ้องขอหาทำร้ายกันได้ แ่ต่นี่ไม่ใช่แล้ว มันทำกันทั้งสองฝ่าย "ผิดทั้งคู่แหละครับ" สงสารประเทศเถิดจะทำร้ายประเทศแดนเกิืดของพวกคุณไปถึงไหน?



0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น