วันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

มวยคู่เอก : นิวเอจ VS มอร์มอน

สำหรับมวยคู่เอกในวันนี้ ผมขอเสนอ "นิกายสองนิกาย" ซึ่งเป็นนิกายเกิดใหม่ของคริสตศาสนานะครับ ก่อนอื่น ผมจะสรุปสั้นๆ เกี่ยวกับคริสตศาสนา่ก่อน เริ่มเดิมทีก็ไม่มีนิกายเหมือนกับพุทธศาสนานั่นแหละครับ จากนั้น ก็แยกเป็นสองนิกายใหญ่ คือ ๑. คาทอลิค (กลุ่มดั้งเดิม) ๒. โปรแตสแตนท์ (กลุ่มหัวก้าวหน้า) สรุปง่ายๆ คือ คาทอลิกจะอนุรักษนิยม ยึดถือสิ่งดั้งเดิมตามแนวทางของตน คล้ายๆ กับเถรวาทในพระพุทธศาสนานะครับ ซึ่งในนิกายนี้จะมี "พระสันตปะปา" เป็นศูนย์กลางของทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นชาวคริสตร์ในประเทศใด จะต้องขึ้นตรงกับพระสันตปะปาครับ และจะไม่มีอะไรใหม่ไปกว่าสิ่งที่ได้รับการยืนยันและเชื่อกันมาแล้วว่า "ถูกต้อง" มากกว่านั้นไม่มีอีกครับ ดังนั้น จึงไม่มีการแตกหน่อ แตกกอ ไปเป็นนิกายใหม่อีกได้ครับ ส่วนนิกายโปรแตสแตนท์ จะตรงกันข้าม คือ จะหัวก้าวหน้า เน้นพัฒนาไม่เน้นอนุรักษนิยม อะไรที่เห็นว่าควรปรับเปลี่ยนก็สามารถปรับเปลี่ยนตาม "การตีความของแต่ละคนที่ต่างกันไป" ได้ครับ ดังนั้น แม้ในโปรแตสแตนท์เอง ก็มีการแตกหน่อแตกกอ ออกไปตามความคิดของคนแต่ละคนที่ต่างกันได้ครับ ที่สำคัญอีกประการคือ โปรแตสแตนท์ไม่ได้เอาพระสันตปะปาเป็นศูนย์กลางของทุกอย่างนะครับ (และเชื่อว่าแม้แต่พระสันตปะปาและนักบวชชาวคริสต์ทั้งหลาย ก็ล้วนทำผิดกันได้ครับ)


ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้เกิด "ลัทธิ" ใหม่ๆ ขึ้นมาจากนิกายโปรแตสแตนท์ นั่นเองครับ ซึ่งมากมายเหลือเกิน ถ้าดูทั่วทั้งโลกนะครับ แต่ที่เห็นจะโดดเด่นและน่าสนใจจะมีอยู่ ๒ ลัทธิ อีกเช่นกันครับ ซึ่งผมจะได้นำมาเป็นหัวข้อในการวิจารณ์กันในวันนี้ นั่นก็คือ ๑. ลัทธินิวเอจ ๒. ลัทธิมอร์มอน ซึ่งลัทธิมอร์มอนนี้ ก็เป็นลัทธิที่ "มิต รอมนี่ย์" นับถืออยู่ด้วยสิครับ เอาละ ที่นี้น่าสนใจหรือยังละครับ? ว่าทำไม พรรครีพับริกันจึงสนับสนุนคุณ มิต รอมนี่ย์ ขึ้นชิงตำแหน่งประธานาธิบดี และเกี่ยวข้องอะไรกันกับความเชื่อในลัทธิที่เขานับถือหรือไม่? (ลัทธิมอร์มอน เป็นลัทธิที่เกิดในอเมริกา ก่อตั้งโดยคนอเมริกัน ทั้งคัมภีร์มอร์มอนก็เขียนโดยชาวอเมริกัน จึงไม่ได้มีของที่ตกทอดมาจากยุโรปหรือต้องขึ้นกับพระสันตปะปาเลย) อย่างหนึ่งที่ผมอยากบอกคุณคือ "พรรครีพับริกัน" จะเน้นชาตินิยมมากกว่าพรรคเดโมแครต จะทำอะไรจะยึดเอาผลประโยชน์ของคนอเมริกันเป็นที่ตั้งมากกว่า และเคร่งครัดมากกว่าพรรคเดโมแครต (ดังนั้น ก็อาจเป็นสิ่งที่ดีกว่า ถ้าบารัค โอบาม่า ได้เป็นประธานาธิบดีครับ เพราะว่าพรรคนี้จะไม่ทำเพื่อชาตินิยมมากเท่าไรนัก) อย่างนโยบายกำจัดสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์นี่ก็จะเคร่งครัดมากในพรรครีพับริกัน แต่เมื่อมาถึงมือพรรคเดโมแครตแล้วก็จะผ่อนคลายลง ปรับตามสถานการณ์มากกว่าครับ เอาละ ทีนี้ คุณเห็นภาพเชื่อมโยงหรือยังว่าทำไม "พรรครีพับริกัน" จึงต้องเลือกมิต รอมนี่ย์ เข้าชิงประธานาธิบดี และเกี่ยวข้องกับลัทธิมอร์มอนอย่างไร? อย่างนี้ครับ ถ้าคุณยังไม่เข้าใจ ผมจะอธิบายให้เข้าใจเอง สมมุติว่าคุณเป็นประเทศไทย นับถือคาทอลิค คุณก็ต้องขึ้นกับพระสันตปะปาซึ่งเป็นชาววาติกัน ถ้าคนทั่วโลกนับถือคาทอลิคหมดละ ไม่ต้องขึ้นอยู่กับนครรัฐวาติกันหมดหรือ? ใช่ไหมครับ? ไม่ใช่ว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลยนะครับ ในสมัยโบราณ อำนาจของคริสตจักรมีมากถึงขนาด สามารถสั่งให้ประเทศหนึ่งทำสงครามกับอีกประเทศหนึ่งได้เลย ดังนั้น แม้แต่พระราชาหรือผู้นำประเทศ ยังต้องเกรงอำนาจของพระสันตปะปาครับ และถ้าคุณทราบประวัติของพระนางอลิซาเบต ผู้นำของอังกฤษฝ่ายสถาบันกษัตรย์แล้วละก็ คุณจะทราบว่าท่านไม่ได้นับถือคริสตศาสนานิกาย "คาทอลิค" นะครับ และท่านก็เ็ป็นผู้นำของลัทธิใหม่ที่ท่านปกครองเองครับ


เอาละ ผมจะสรุปลัทธิสองลัทธิใหม่นี้ให้สั้นๆ ง่ายๆ ก็แล้วกัน


๑. ลัทธินิวเอจ ถูกจับตามองว่าจะเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับ "กลุ่ม New world order" ซึ่งมีอิทธิพลต่อโลกมาก ลัทธินี้สอนให้คน "ตั้งตัวเป็นพระเ้จ้า" เหมือนเวลาเราไปเรียนปริญญาโท MBA เขาก็จะสอนให้เราตั้งตัวเป็น "เจ้าของกิจการ" นั่นแหละ ทว่า ถ้าท่านเข้าใจผิดไปนิดเดียว ท่านก็จะหลงตัวเองว่าฉันเป็นพระเจ้าแล้ว (สนองกิเลสความอยากเป็นที่ถูกกดมานาน) แต่ถ้าคุณเข้าใจ "ความเป็นหนึ่งเดียวกันและหลักตรีเอกานุภาพ" แล้ว คุณก็อาจจะไม่เกิดอาการอย่างนั้นขึ้นมา ซึ่งในความเป็นจริง มันยากครับที่จะไม่ทำให้คนหลงเข้าใจผิด หลงตัวเองแบบนั้น ดังนั้น คนในลัทธินี้ จึงมีแนวคิด "สร้างโลก ควบคุมโลกให้เป็นไปตามที่ตนเองคิด" เพราะอะไร? เพราะพวกเขาเชื่อว่าพวกเขาคือพระเจ้าอย่างไรละครับ


๒. ลัทธิมอร์มอน ถูกจับตามองว่าอาจเป็นเครื่องมือทางการเมืองของพรรครีพับริกัน ในการเปลี่ยนเอาลัทธินี้ที่เกิดจากคนอเมริกันขึ้นมาแทนที่จะเปิดรับนิกายอื่นๆ เช่น นิกายคาทอลิคที่คุณต้องขึ้นตรงต่อพระสันตปะปา และนั่นก็หมายความว่าคุณต้องขึ้นตรงต่ออำนาจของคริสตจักรแห่งนครรัฐวาติกันอีกด้วย นี่แหละ พรรครีพับริกันก็เลยพิทักษ์ผลประโยชน์ตามแนวนโยบายอนุรักษนิยมของตน ด้วยการเชื่อของคนอเมริกันเอง แทนที่จะไปขึ้นตรงต่อชนชาติอื่น ใช่ไหมละครับ อนึ่ง ลัทธิมอร์มอนนี้ สอนให้คนเปิดใจกว้างมากขึ้น และเชื่อว่าพระเจ้าได้ประทานพระวัจนะเสมอๆ ทั้งอดีตและอนาคต ดังนั้น แม้แต่คัมภีร์มอร์มอนก็เป็นหนึ่งในคัมภีร์ที่มาจากพระวัจนะครับ (ในขณะที่นิกายอื่ืนๆ จะไม่ยอมรับคัมภีร์มอร์มอนนี้)


เอาละ หวังว่าท่านคงเห็น "ความเชื่อมโยง" ของลัทธิทั้งสองนี้ ที่มีต่อ "การเมืองระดับโลก" บ้างนะครับ ต่อไปผมจะเปิดเวทีเสรีให้ท่านทั้งหลาย ลองแสดงความคิดเห็น, วิพากย์, วิจารณ์ ร่วมกันในประเด็นนี้ ได้อย่างอิสระเสรี หากท่านใดมีข้อมูลข้อเท็จจริง จะนำเสนอประกอบก็สามารถทำได้เลย ขอเชิญครับ ...


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น