วันจันทร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2556

แฉกลเล่ห์ลวงลับ "ก๊วยเจ๋ง" คนหน้าซื่อ กระทำล้ำลึก

ก๊วยเจ๋ง เป็นคนที่มีบุคลิกภาพเหมือนคนโง่และไม่มีความทะเยอทะยาน ทำให้คนทั้งหลายมองว่าเป็นคนดี ไม่มีกิเลส ไม่แก่งแย่งแข่งขันกันใคร และเป็นคนดี น่าศรัทธา แต่ว่า นั่นเป็นแค่บุคลิกเท่านั้น เพราะการกระทำที่แท้ ล้วนไม่เ็ป็นเช่นนั้น (บุคลิกโง่ การกระทำล้ำลึก) ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะตัวของตัวละครเอกจากเรื่องมังกรหยก ตัวหนึ่งชื่อ "ก๊วยเจ๋ง" ที่มีบุคลิกภาพเหมือนคนโง่แต่มีการกระัทำเจ้าเล่ห์ล้ำลึก เช่น การที่ได้เป็นเขยของเจงกิสข่าน แต่กลับไม่รับตำแหน่ง คนก็มองว่าโง่ (แท้แล้วเพื่อจะตั้งราชวงศ์ของตนเองขึ้นใหม่) การเป็นพี่น้องร่วมสาบานกับเอี้ยคัง แต่ไม่ได้ร่วมมือกับเอี้ยคังเพื่อฟื้นฟูราชวงศ์กิม ที่ล่มสลายไปเลย (ปล่อยให้กิมล่มสลาย เพื่อเปิดทางให้ตนตั้งราชวงศ์ใหม่ขึ้น) การไม่ยอมทำงานให้แก่ราชวงศ์ซ้องที่กำลังล่มสลาย แต่กลับรวบรวมชาวยุทธ์ต้านทัพมองโกลกันเอง (เพื่อจะได้ไม่เป็นข้าพวกซ้อง และตนจะไ้ด้ตั้งราชวงศ์ขึ้นใหม่เอง) การมี "มารบูรพา" เป็นพ่อตา, การมี "ยาจกอุดร" เป็นอาจารย์ สองคนนี้ เป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของยุทธภพ ที่ชาวฮั่นล้วนนับถืิอทั้งนั้น เท่ากับได้สองแรงคอยหนุน การได้อึ้งย้งเป็นภรรยา (แม่ของอึ้งย้ง จำคัมภีร์เก้าอิมได้หมด) ทั้งๆ ที่ตนเองเป็นจอมยุทธ์ฝ่ายคุณธรรมและชาวยุทธ์ล้วนกล่าวว่า "เก้าอิมคือวิชามาร" แทนที่เขาจะปฏิเสธ แต่เขาไม่เคยปฏิเสธ ทั้งยังแอบฝึกจนสำเร็จอีกด้วย ก๊วยเจ๋งได้ตำแหน่งพรรคกระยาจกทั้งๆ ที่ตนเองไม่ไ้ด้เป็นขอทาน แทนที่จะให้คนที่เป็นขอทานจริงๆ ปกครองกันเอง เขากลับไม่ปฏิเสธ เพื่อที่จะได้ใช้พรรคกระยาจกเป็นกองกำลังในภายภาคหน้า ก๋วยเจ๋งรู้ว่าเอี้ยคังพี่น้องร่วมสาบานต้องการตำรายุทธพิชัยสงคราม "งักฮุย" เพื่อฟื้นฟูราชวงศ์กิมก๊กของตน ทั้งๆ ที่เขามีอยู่มือเขาก็ไม่เสียสละให้พี่น้องของเขา ตัวเขาเองเป็นคนธรรมดา ไม่ได้มีเชื้อสายราชวงศ์เก่า ไม่มีกิจต้องฟื้นฟูราชวงศ์เหมือนเช่นเอี้ยงคัง แต่เขากลับเก็บไว้ที่ตัวเอง และใช้ต้านทัพมองโกล ก๊วยเจ๋งทำเป็นรักลูกรักเมียมาก ตามใจก๊วยพูแต่แท้แล้วปล่อยให้ก๊วยพูมาตัดแขนเอี้ยก้วย เพราะรู้ว่าเอี้ยก้วยฝึกวิชาเก้าอิืมอยู่ (ตัวเองฝึกได้ แต่พอเอี้ยก้วยฝึก ไม่ไ่ด้) ซึ่งวิชาสองมือขัดแย้งนั้น ก็ได้รับมาจาก "จิวแปะทง" ที่ให้วิชาเก้าอิมแก่้ทั้งเอี้ยก้วยและก๊วยเจ๋งๆ จึงรู้ดี ก๊วยเจ๋งเลี้ยงเอี้ยก้วยเหมือนลูกเลี้ยงแต่ไม่เคยสอนวิชาดีๆ ให้ ทำให้เอี้ยก้วยถูกพี่น้องรังแกมาตลอด เป็นเด็กเก็บกดมีปมด้อย จนเมื่ออ้าวเอี้ยงฮงแอบสอนวิชาคางคกให้จนเกิดเรื่อง ก๊วยเจ๋งถึงกับไม่ยอมเลี้ยงเอี้ยก้วยต่อ เอาไปให้สำนักช้วนจินก่าดูแล ซึ่งช้วนจินก่าก็ไม่เคยสอนวิชาให้เอี้ยก้วยเลย (ก้วยเจ๋งเป็นคนใหญ่โตในยุทธภพ กลับไม่เคยเหลียวแลเลยว่าลูกเลี้ยงของตนอยู่ที่ช้วนจินก่าแล้วเขาไม่เคยสอนวิชาอะไรให้เลย) เอี้ยก้วยต้องขวนขวายหาเองจนได้วิชาของสำนักสุสานโบราณ ยามนั้น ราชวงศ์ซ้องกำลังล่มสลาย ก๊วยเจ๋งไม่เคยเข้าไปช่วยเหลือราชวงศ์ซ้องเลย ปล่อยให้ล่มสลายไป จะเรียกว่าจงรักภักดีได้อย่างไร เขาปล่อยให้ราชวงศ์เก่าล่มสลายลงไป ไม่ฟื้นฟูราชวงศ์กิม (ของพี่น้องร่วมสาบาน เอี้ยคัง) และไม่ยอมช่วยพ่อตา เจงกิสข่าน ทั้งหมดเพื่ออะไร? ก็เพื่อที่ตนเองจะได้ตั้งราชวงศ์ใหม่ แต่เขาทำไม่สำเร็จก็เท่านั้น คนที่คอยดู "นิสัยคนอย่างลึกซึ้ง" แท้จริง ก็คือ "จิวแปะทง" ที่ต้องแกล้งอยู่อย่างคนบ้าไปวันๆ เพราะรู้ว่าแม้แต่พี่ชายของตัวเองเก่งขนาดไหน ยังโดนสี่ยอดฝีมือที่ชาวยุทธ์ยกย่อง "รุมฆ่าเพื่อเอาคัมภีร์เก้าอิมเล่มเดียว" (ชาวฮั่นมองชาวกิมก๊กว่าเลวเพราะฆ่าคนเอาคัมภีร์และยุทธพิชัยสงครามของงักฮุย แท้แล้ว ยอดยุทธ์ชาวฮั่นทั้งสี่ ก็เลวไม่แพ้กันรุมฆ่าเฮ้งเต้งเอี๊ยงเพื่อคัมภีร์เล่มเดียว แต่ในเรื่องสร้างภาพว่าคือการปะลองยุทธ์นะ แท้แล้วคือ การแสร้งปะลองยุทธ์ทีเดียวสี่คนเพื่อรุมคนๆ เดียว) พอพบก๊วยเจ๋ง เขาคิดว่าเป็นคนดี จึงลองใจบังคับให้ท่องวิชาเก้าอิม (แต่ไม่ได้บอกให้ฝึก เพื่อลองใจก๊วยเจ๋งดูว่าจะแอบฝึกเก้าอิมหรือไม่?) ภายหลังก๊วยเจ๋งก็รู้ว่าวิชาเก้าอิม ชาวยุทธ์ล้วนถือเป็นวิชามาร ไม่ให้ฝึกกัน แต่ตนเองก็ยังฝึกต่อจนสำเร็จ  (เพื่ออะไร?) สุดท้ายจิวแปะทงรู้ว่าไม่ใช่คนดีแท้จริง จึงไม่ช่วยเหลือ ได้พบเอี้ยก้วยและเซียวเล่งนึ้ง จึงได้ถ่ายทอดวิชาเก้าอิมและสองมือขัดแย้งให้ทั้งสองคนนี้แทน (แต่ทั้งสองคนไม่อยากแก่งแย่งอำนาจ รักสันโดษ ภายหลังจึงได้ปลีกวิเวกหายไป) ก๊วยเจ๋งยามมีเอี้ยก้วย ทำผลงานมากมายต้านทัพมองโกลสำเร็จ แต่พอไม่มีเอี้ยก้วยแล้ว สุดท้าย ก็ต้องพินาศและล่มจมไป ทัพมองโกลก็บุกยึดแผ่นดินฮั่น ตั้งราชวงศ์หยวนขึ้นมาแทนที่


คนเราถ้าจงรักภักดีจริงก็ต้องร่วมมือกับ "ราชสำนัก" (ราชวงศ์ซ้องขณะนั้น) แล้วต้านทัพมองโกลในฐานะประชาชนชาวซ้อง ไม่ใช่ รอให้ซ้องล่มสลาย ตัวเองกลับซ่องสุมกำลังกันเงียบๆ ในรูป "สำนักธรรม" หรือก็คือ "สำนักชาวยุทธ์ต่างๆ" นั่นเอง แท้แล้ว ก็คือ "การเล่นการเมืองเพื่อตั้งราชวงศ์ใหม่ของตนเอง" เพื่อให้ได้อำนาจตกในมือของตนกันทั้งนั้น หากเป็นผู้มีธรรมละทางโลกได้จริง เหตุไฉนต้องเลือกว่ากิมก๊กหรือชาวมองโกล เป็นผู้ผิด ไม่อาจครองแผ่นดินจีนได้? ก็ในเมื่อ ไม่ว่าชาวกิมก๊กหรือชาวมองโกล ล้วนแต่เป็นชาวจีนทั้งนั้น เพียงแต่ต่างชาติพัันธุ์กันเท่านั้นเอง ใครจะึขึ้นครองอำนาจ เป็นใหญ่ ล้วนไม่ใช่สิ่งที่ผิดเลย ทว่า "ชาวยุทธ์ฮั่น" ต่างตีตราบาปผูกขาดไว้ว่า "ถ้าไม่ใช่ชาวยุทธ์ฮั่น" มันจะครองแผ่นดินจีน ไม่ได้ ใครที่อาจหาญตั้งราชวงศ์ ก็จะถูกมองว่าเป็นตัวร้าย เป็นมารไป ไม่ต่างจาก "เอี้ยคัง" แท้แล้ว ชาวยุทธ์ฮั่น ต่างก็ตั้งตัว ตั้งสำนักขึ้นมา เืพื่อเล่นการเมือง เพื่อช่วงชิงความเป็นใหญ่ เพื่อให้ได้ตั้งราชวงศ์ของตนเองบ้าง ก็เท่านั้น หาใช่ตั้งสำนักธรรมมาเพื่อหลุดพ้นเรื่องทางโลกไม่ แม้แต่ "วัดเส้าหลิน" ที่มี "ฉากหน้าเป็นวัด" ที่แท้ก็คือ "แหล่งซ่องสุมของนักการเมือง" ที่แอบไปซ่อนตัวในรูปของพระสงฆ์ (ซึ่งในพม่ายุคปัจจุบัน พระสงฆ์ทำแบบนี้ก็มีมากมาย) แท้แล้วกลับฝึกวิชาฆ่าคน พร้อมรบ พร้อมทำสงครามยึดอำนาจกันทั้งนั้น ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงของราชวงศ์หนึ่งไปสู่ราชวงศ์หนึ่ง วัดเส้าหลินก็ล้วนมีส่วนรู้เห็นและอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น ซึ่งก็ไม่ใช่สิ่งที่ผิด เพราะมันคือ "การเล่นการ เมือง" ใครก็มีสิทธิ์เล่นได้ ทว่า "จอมยุทธ์ฮั่น" จะตีตราบาปให้คนอื่นที่ไม่ใช่ชาวยุทธ์ฮั่นว่าไร้ความชอบธรรมในการเล่นการเมือง หรือก่อตั้งราชวงศ์ของตนเอง ดังเช่นที่ตีตราบาปให้ใครหลายคนมาแล้ว ภายหลัง "เฉียนหลงฮ่องเต้" กวาดล้างพวกชาวยุทธ์ (นักการเืมืองนอกระบบ) ไปเืื่พื่อความมั่นคงของประเทศ กลับถูกชาวธิเบตมองว่าเลวร้าย จนเมื่อดาไลลามะแห่งธิเบตองค์ที่ ๖ ได้เข้ามาพบเฉียนหลงด้วยตนเอง จึงได้เข้าใจสาเหตุทั้งหมด จึงเป็นเพื่อนกัน พอกลายเป็นเพื่อนกันเท่านั้น ดาไลลามะองค์ที่ ๖ ก็ไม่ได้รับการยอมรับจากชาวธิเบตเลย จนต้องเร่ร่อนออกไปมรณภาพในบั้นปลายชีวิต แท้แล้ว "ชาวธิเบต" ส่วนหนึ่งก็มาจาก "ชาวยุทธ์ฮั่น" ที่ถ้าเราไปศึกษาดูวิชาที่พระลามะธิเบตฝึกกันแล้ว คุณจะรู้ว่า หลายวิชามาจากวิชายุทธ์ของชาวฮั่น ทั้งสายเส้าหลินและสายลี้ลับอื่นๆ ทั้งสิ้น (พวกชาวยุทธ์แฝงตัวเป็นพระลามะธิเบต พวกนี้ ก็คือ ชาวฮั่น) ในที่สุด ประเทศจีนจึงอ้างเหตุ "ยึดธิเบต" เป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีนในปัจจุบัน (คุณทราบไหมว่ามีลามะธิเบตรูปหนึ่ง ถือ "ตราราชวงศ์ฮั่น" บางอย่างที่สำคัญมากไว้ในมือ และคนผู้นั้น "มิใช่ดาไลลามะ" ที่แสนจะโด่งดังและอาจไม่ทราบเลยว่า "ลามะธิเบต" ทำไมถูกจีนเล่นงานเพราะเป็นชาวยุทธ์ฮั่นแฝงมานั่นเอง) คนที่ประธานาธิบดีจีนเล่นงานคือ ปันเชนลามะและดาไลลามะนั้น ทั้งสองคน ไม่ได้ถือตราราชวงศ์ฮั่น แต่คนที่มีตราราชวงศ์ฮั่นอยู่ในมือ คือ "ลามะท่านอื่น" และตราบใดที่ยังมีตราราชวงศ์นี้ ก็ยังใช้รวบรวมชาวฮั่นขึ้นเพื่อต่อต้านการปกครองแบบคอมมิวนิสต์จีนได้อีก ซึ่งอันตรายกว่า "เฉินกวงเฉิง" เสียอีก


เรื่องนี้ลับมากๆ บอกมากกว่านี้ไม่ได้ครับ เพราะคนที่มีชีวิตอยู่ หลบซ่อนตัวอยู่ ยังมี ...



0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น