วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2555

"ฉีกหน้ากากกบฎ" กบฎตัวจริงคือใครกันแน่?

ยังมีคนกลุ่มหนึ่งที่นำโดย "ผังเจียน" (ผมขอเรียกคนๆ นี้ ตามอดีตชาติของเขา ที่ผมระลึกได้ เพราะชื่อปัจจุบัน เอ่ยไม่ได้ครับ) คนกลุ่มนี้ มีมิจฉาทิฐิฝังหัวอยู่เสมอว่า "ประชาชนที่แสดงความคิดเห็นทางการเมือง คือ ภัยต่อความมั่นคง" และคอยใช้อำนาจบาตรใหญ่ "ใส่ร้าย" ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ผู้ไม่เคยออกไปชุมนุมประท้วง ได้แต่แสดงความคิดเห็นทางการเมืองโดยสันติ ทางอินเตอร์เน็ต ว่าเป็น "ภัยต่อความมั่นคงของชาติ" ทั้งๆ ที่พวกเขาเหล่านี้ "ล้วนมีจิตอาสาทำเพื่อประชาชนโดยไม่หวังผลตอบแทน" ไม่ต่างจาก "มหาตมะ คานธีร์" ที่เคยขับเคลื่อนประเทศอินเดียโดยสันติวิธี ไม่ใช่ความรุนแรง แต่ก็ยังไม่วายโดนคนพวกนี้ก็ยังใส่ร้าย ให้คนมากมายเชื่อได้ว่า ประชาชนผู้บริสุทธิ์และเสียสละเหล่านั้น คือ "ภัยต่อความมั่นคงของชาติ" ทั้งยัง เรียก "นายกยิ่งลักษณ์" ไปคุย กรอกหู และยัดเยียดข้อมูลตอแหล ให้นายกเชื่อว่า "ประชาชนผู้บริสุทธิ์เหล่านี้ คือ ภัยต่อความมั่นคงของชาติ" แต่ว่า นายก เขาก็ไม่เคยเชื่อหรอก เพราะถูกบังคับ จึงจำเป็นต้องเออออ เข้าไปฟัง ถูกบังคับให้ออกมาทำงาน เรื่องปัญหาภัยต่อความมั่นคง ที่นอกเหนือจากสามชายแดนใต้ (เรื่องปัญหาชายแดนใต้ ก็ยังแก้ไม่ได้ ทั้งศัตรูทางการเมืองของตัวเอง มันก็ยังจัดการไม่เรียบร้อย มันยังเสือกก่อศัตรูเพิ่ม นี่ละครับ "สันดาน" ของผังเจียน เวลายกทัพไปตีศัตรูถึงได้ถูกซุนปินตลบหลังอยู่ตลอด สุดท้าย ก็ตายไม่ต่างจากหมาตัวหนึ่ง) เปลือกนอกของผังเจียน ถูกกำหนดให้มาทำงานด้านการสร้างสัมพันธไมตรี ดูดีมากครับ นั่นเพราะอะไร เพราะเขาต้องแก้ไข จุดเสียของตนเองตรงนี้ให้มาก เขาเป็นคน "ไม่จริงใจกับใคร" ไปเข้าหาใคร เปลือกนอกก็ดูดี เหมือนรักกันมาก แต่ใจจริงมันตรงกันข้ามครับ ไปทำดีกับคนจีน แต่ใจมันเกลียดคนจีนเข้าใส้ ไปทำดีกับคนลาว แต่ใจก็ไม่เคยเห็นคุณค่าที่แื้ท้จริงของคนลาว คือ มันก็ทำไปอย่างนั้นเอง แสดงละครได้ดีเลยมีภาพลักษณ์ดี คนชอบเยอะครับ


ทีนี้ พอมันมีอำนาจมากๆ เพราะ "พ่อมันป่วย" แล้วหาคนทำงานให้พ่อมันไม่ได้ พ่อมันไม่ไว้ใจใคร มันก็เลยได้อำนาจ มาสั่งการ นั่น โน่น นี่ สารพัด ไม่สนใจใครจะคิดอย่างไร มันก็มาตามมิจฉาทิฐิของมัน มันคิดวางแผนที่จะจัดการกับ "ประชาชนผู้บริสุทธิ์" ที่แสดงความคิดเห็นอย่างสงบตามระบอบประชาธิปไตย   โดยการใส่ร้ายว่าเป็น "ภัยต่อความมั่นคง" ครับ นั่นแหละ สันดานของผังเจียน กี่ชาติก็แก้ไม่หาย คุณคิดดูนะ ประชาชนเขาอุตส่าห์ ไม่ออกไปเดินขบวน ไม่ไปชุมนุมสร้างความเดือดร้อนให้ใคร เขาใช้สิทธิ์แสดงความคิดเห็นทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย แต่มันยังอาศัย "หน้ากากผู้ดี" อาศัยว่ามีคนเชื่อว่ามันเป็นคนดีมาก (ภาพลักษณ์มันดีครับ) มันก็เลยครอบงำ กล่อมประสาท ทำให้คนเชื่อ ตามๆ มันไปว่า "ประชาชนที่แสดงออกทางความคิดเห็น" คือ "ภัยต่อความมั่นคงไป" มันจะเป็นภัยต่อความมั่นคงไปได้อย่างไรละครับ? ตรงกันข้าม มันคือ "เสาหลักแห่งความมั่นคงของประชาธิปไตย" เลย และอย่าลืมครับ อย่าหลงเพ้อครับ ตื่นได้แล้วครับ อย่าอินกับอดีตที่ผ่านไปแล้วมากไป ประเทศของเรา หมดยุดที่เป็น "ระบอบเจ้าขุนมูลนาย" ไปนานแล้วครับ ตื่นได้หรือยัง? หรือยังฝันเฟื่องลอยลมกันอยู่อีก? จะทำให้ประเทศมันถอยหลังลงคลอง แล้วพวกเราต้องไปเป็นขี้ข้า ไปเป็นทาส เช้ามาตื่นมากราบตีนเจ้าขุนมูลนายกันอีกหรือครับ? พอแล้วครับ เราโดนกันมาเยอะแล้ว พระไทยท่านก็สอน "ให้อยู่กับปัจจุบันนะลูกนะ" ไม่ให้ไปหลงยึดติด อาลัยอาวรณ์อะไรกับอดีตที่มันสิ้นไปแล้ว เราเป็นประชาธิปไตยแล้วในปัจจุบัน ดังนั้น การที่ประชาชน ไม่ไปชุมนุมประท้วง แต่แสดงความคิดเห็นทางการเมือง ผ่านสื่อต่างๆ โดยสงบนั้น คือ "รากเหง้าและเสาหลักของประชาธิปไตย" ครับ ดังนั้น สิ่งที่ผังเจียนทำ ก็คือ "การใส่ร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์" ที่กำลังสร้างรากฐาน สร้างความมั่นคง ให้กับประชาธิปไตยไทย กำลังสร้างภูมิปัญญาให้กับมวลชนคนไทย และกำลังกลายเป็น "เสาหลัก" ที่ยืนหยัดด้วยอุดมการณ์แห่งประชาธิปไตยเต็มร้อยครับ นั่นคือ "ผังเจียนต้องการล้มเสาหลักประชาธิปไตย" จับประชาชนผู้บริสุทธิ์มายัดเยียดข้อหาว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ทั้งๆ ที่ตัวเขาเองนั่นแหละที่เป็น "กบฎ" เพราะกำลังคิดการณ์ใหญ่ ล้มล้างระบอบประชาธิปไตยครับ เพื่ออะไร? เพื่อให้ประเทศถอยกลังลงคลองกลายเป็นระบอบเจ้าขุนมูลนายไงละครับ ดังนั้น เขาจึงสั่งใช้ ปชป. ให้มาไล่จับเว็บไซต์ต่างๆ ถามว่า "เว็บไซต์เหล่านี้" ผิดหลักประชาธิปไตยไหม? ไม่เลยครับ ตรงข้าม มันคือ การแสดงออกอันจะนำไปสู่ความเ้ข้มแข็งของประชาธิปไตย แต่พวกเขาก็ยัง "ใส่ร้าย" ป้ายสีว่าคนเหล่านี้เป็นภัย? ถามว่าเป็นภัยต่ออะไรกันแน่? มันไม่ใช่ภัยต่อประชาธิปไตยแน่นอนครับ แต่มันอาจเป็น "ภัยต่อพวกที่กำลังกบฏต่อประชาธิปไตย" เท่านั้นเองครับ สมัยก่อน พวกกบฏพวกนี้ ต้องถูกประหารเจ็ดชั่วโคตรครับ แต่สมัยนี้เราเป็นประชาธิปไตยแล้ว เราไม่ทำอย่างนั้นหรอกครับ เราก็ได้แค่ "แสดงความคิดเห็น" ให้ท่านผู้อ่านที่ "น่าจะมีปัญญามาก" ไม่น้อย ดูกันเอาเองครับว่าใครกันแน่ที่เป็น "ภัยต่อความมั่นคงของชาติ" ขอท่านผู้อ่านอย่าได้ยึดติดตัวบุคคล เปิดใจให้กว้าง ใช้เหตุผลให้มากครับ



0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น