วันพุธที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ดุลยภาพที่เปลี่ยนไปหลังเลือกผู้นำ "เกาหลีเหนือ-อเมริกา-จีน-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้"

ประเด็นนี้ผมคิดว่าน่าสนใจมากนะครับ คือ "เรื่องดุลยภาพอำนาจ" และการเมืองที่เปลี่ยนไปในภูมิภาคเอเชีย หลังการเลือกผู้นำ "เกาหลีเหนือ-อเมริกา-จีน-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้" ซึ่งเดิมผมอยากจะบอกว่าในเขตภูมิภาคเอเชียนี้ เคยมี "ไทย" เป็นศูนย์กลางของอภิมหาอำนาจครับ คือ "อเมริกา" และ "จีน" ที่ผมเคยบอกแล้วว่าเขาได้เข้ามาเชื่อมต่อสายสัมพันธ์ทางการเมืองอย่างแนบแน่นกับผู้นำเสื้อเหลืองและผู้นำเสื้อแดงของไทย ทำให้เกิดการคานดุลยภาพอำนาจโดยมีไทยเป็นจุดศูนย์กลางของดุลยภาพนี้ และส่งผลให้ "อาเซี่ยน" คึกคักมากในรอบไม่กี่ปีที่ผ่านมา อย่างหนึ่งก็ขอชมนิดหนึ่งครับว่า "ไทยก็มีผู้นำหญิงที่อาจไม่ใช่คนที่เก่งที่สุด" แต่ก็ทำหน้าที่คานดุลยภาพอำนาจของสองมหาอำนาจนี้ได้ในระดับหนึ่ง ไม่เลวครับ (ไม่ใช่เรื่องง่ายนะครับ) แต่ต่อไปนี้ "เกมหมากกระดานนี้" มันจะไม่ใช่แ่ค่ "อาเซียน" แล้วครับ มันเริ่มขยายวงกว้างขึ้น "อย่างชัดเจน" และมีหมากใหม่ๆ เข้ามาในกระดาน หรือถ้าจะเปรียบเหมือนวงไพ่้ก็คือ ถึงเวลาต้องขยับขยายวงแล้ว เพราะมีคนเล่นแบบเอาจริงเอาจัง เข้ามามากขึ้นแล้วครับ (วงไพ่วงนี้คงน่าสนใจไม่น้อยทีเดียว) นั่นคือ การขยายจาก "อาเซียน" ไปสู่ "เอเชียตะวันออก" ทั้งหมด (ทั้งเอเชียนตะวันออกเฉียงเหนือและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้) ดังนั้น ผมจะขอเรียกวงไพ่หรือหมากกระดานนี้ใหม่ว่าเป็น "เอเชียตะวันออก" หรือ "เอเชียบูรพา" ก็แล้วกัน และต่อไปนี้ คำนี้ จะเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นกว่าคำว่า "อาเซี่ยน" แล้วครับ เพราะหลังจากนี้ "ญีุ่ปุ่น" จะไม่มองห่างๆ อีกแล้ว เขาเริ่มจะเอาจริง หลังจากได้ผู้นำที่มีแนวคิด "ชาตินิยมสุดโต่ง" เข้ามาเล่นในเกมนี้, "เกาหลีเหนือ" ได้ผู้นำคนใหม่อายุน้อย ไฟแรง และเข้มแข็งไม่แพ้ผู้เป็นพ่อเลยทีเดียว (นโยบายก็สานต่อของเดิมอยู่), "จีน" ได้ผู้นำที่ลดบทบาทไปเล่นการเมืองระดับชาติ เล็กลงไป แต่ทำงานละเอียดขึ้น เพื่อความเข้มแข็งภายในมากขึ้น ยกหน้าที่ "ระดับโลก" ให้กับ "สภาคอมมิวนิตส์" แทน ดังนั้น ลองคิดดูสิครับว่า สามประเทศยักษ์ใหญ่ในเอเชียบูรพาต่างแข็งกร้าวไม่ยอมใคร มันจะเกิดอะไรขึ้น? ดังนั้น "ผู้นำเกาหลีใ้ต้" จึงจะต้องขึ้นมามีบทบาทสำคัญในแบบที่แตกต่างนะครับ คือ ๑. คานดุลยภาพอำนาจ ๒. ยืดหยุ่นอ่อนโยน ๓. ใช้น้ำเย็นเข้าลูบ ไม่เช่นนั้น ภูมิภาคนี้จะตกอยู่ภายใต้ความเสี่ยงอย่างยิ่งที่จะเกิดเป็น "สงครามมหาเอเชียบูรพา" นั่นคือ ผู้นำหญิง "ปาร์ก กึน แฮ" ครับ


อย่างแรกเลย คุณลองดูบทบาทที่แตกต่างของ "ปาร์ก กึน แฮ" นะครับ สิ่งที่เธอทำก่อนเลยคือ "การขอโทษ" ครับ ในสิ่งที่บิดาของเธอได้ทำผิดไป ทั้งเธอยังบอกอีกว่าเธอไม่แต่งงานเพราะเธอได้แต่งงานกับประเทศนี้ไปแล้ว (โรแมนติกนะเนี่ย) ทำให้เห็นครับว่าเธอมีจิตใจอ่อนโยน มีความรักเป็น ไม่ใช่คนไม่มีความรัก (เพียงแต่เธอมอบความรักให้ประเทศชาติเท่านั้นเอง) ดังนั้น ผมมองว่านโยบายภายใต้การนำของเธอ จะต้องไม่ใช่ "นโยบายแข็งกร้าว" อย่างประเทศยักษ์ใหญ่ทั้งสาม (อเมริกา, ญี่ปุ่น, จีน) และประเทศเกาหลีเหนือที่อยู่ข้างหลังเธอ เป็นแน่แท้ จับตาดูครับ ต้องมีการเปลี่ยนแปลงดุลยภาพและเกมการเล่นการเมืองระดับเอเชียครั้งใหญ่แน่ และจุดศูนย์กลางต่อไปนี้ มันจะไม่ใช่ประเทศไทยอีกแล้วครับ มันจะเคลื่อนไปสู่ประเทศเกาหลีใต้ (ถ้าเธอทำได้นะครับ) และจะกลายเป็น "สามเหลี่ยมดุลยภาพใหม่" คือ ๑. จีน ๒. ญี่ปุ่น ๓. อาเซียน (อันมีไทยเป็นจุดศูนย์กลาง) และมี "เกาหลีใต้" เป็นศูนย์กลางอีกทีครับ เกมการเมืองของเอเชียบูรพาต่อไปนี้ จะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว รับรองว่าเราจะใกล้ชิดกันมากขึ้น เราจะอบอุ่นมากขึ้น (ถ้าไม่ร้อนแรงจนเกินไป) และจะได้ตื่นเต้นกับบทบาทใหม่ๆ ของคนหน้าใหม่ด้วยครับ!



1 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

ดุลยภาพอำนาจสามเส้าใหม่ จะกลายเป็น


๑. จีน
๒. ญี่ปุ่น (ที่มีอเมริกาอยู่ข้างหลัง)
๓. อาเซียน (ที่พยายามเป็นกลาง)


ลองนึกภาพสามเหลี่ยมสองอันซ้อนกันให้ออกนะครับ
เหมือน "ดาวหกแฉก" นั่นละครับ สามเหลี่ยมอันหนึ่งมี
ไทยเป็นศูนย์กลาง, อีกอันหนึ่งจะมี "เกาหลีใต้" เป็นจุด
ศูนย์กลางนะครับ ปลายของสามเหลี่ยมก็คือประเทศ
มหาอำนาจต่างๆ นั่นเอง

แสดงความคิดเห็น