วันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2555

Propaganda แบบไหนที่ "จีน" จะใช้ล้างสมองชาวเอเชีย?

ยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุดอย่่างหนึ่งในการทำสงครามเย็นเพื่อ "การกลืนเงียบ" คือ "การใช้อิทธิพลสื่อครอบงำ" ล้างสมอง ทำให้เชื่อในสิ่งใหม่ ตามที่ตนต้องการ และเป้าหมายของการล้างสมองชาวเอเชียก็คือ "การสร้างประวัตศาสตร์ใหม่ของโลก" ถึงที่มาของมนุษย์กันเลยทีเดียว (ด้วยเหตุนี้ ฝ่ายอเมริกาเลยทำหนังเรื่อง โพรมีธีอุส ขึ้นมาส่งสัญญาณเตือนว่า "การค้นหาต้นกำเนิดของมนุษย์" นั้น จะทำให้ตัวแกเองแหละ ได้รับความตาย คอยดูสิ หนังโพรมีธีอุส จึงมีเนื้อหาออกมาในเชิงว่ายิ่งมนุษย์อยากรู้ที่มาของตนเอง (ว่าตนเองมีกำเนิดมาจากไหน) ก็จะยิ่งนำพาตัวเองไปสู่ความตาย (โดยการให้สัตว์ประหลาดต่างดาวออกมาไล่ล่าตัวเอกในเรื่อง ที่กำลังค้นคว้าหาความจริง) นี่คือ "การตอบโต้ด้วยอิทธิพลสื่อ" อันเป็นหนึ่งใน "ยุทธศาสตร์สงครามเย็นแบบกลืนเงียบ" ที่ต่างก็ใช้สื่อเล่นงานกันไปมา โดยมีเป้าหมายอยู่ที่การ "ช่วงชิงความเชื่อจากมวลชน" นั่นเอง หมายความว่า ถ้ามวลชนในโลกเชื่อข้างไหนมาก ข้างนั้นก็จะเป็นฝ่ายชนะ อนึ่ง การที่จีนเล่น "ประวัติศาสตร์" เพราะอะไร? เพราะในโลกนี้ ประเทศที่มีการนับประวัติศาสตร์ของตนย้อนหลังไปยาวนานที่สุด และได้รับการบันทึกไว้ เห็นจะไม่มีใครเกินประเทศจีน (ถ้าไม่รวมเมืองโบราณอย่างเช่น กรีกที่ท้าวความถึงขั้นกำเนิดโลกกันเลย) ในเอเชียนี้ประเทศจีนมีประวัติศาสตร์ยาวนานมาตั้งแต่ "เริ่มสร้างโลก" ก็จะมีเทพเจ้าต่างๆ ลงมาสร้างไว้ จากนั้น ก็เริ่มมีมนุษย์, เริ่มมีสังคมมนุษย์ แล้วจากสังคมมนุษย์ก็เริ่มมีรัฐ ขึ้นมาครั้งแรก (ยังไม่ใช่ประเทศนะครับ ขอบเขตยังหลวมๆ เปลี่ยนแปลงได้ไม่เคร่งครัด) โดยเริ่มนับตั้งแต่ปฐมกษัตริย์องค์แรกของจีนที่ว่ากันว่ามีเชื้อสายมาจาก "มังกร" หรือเป็นเผ่ามังกรมาเกิด กันเลยทีเดียว นอกจากนี้ จีนได้จัดการวรรณกรรมต่างๆ ที่เห็นว่ามีผลกระทบต่อความมั่นคง เช่น วรรณกรรมของกิมย้ง ซึ่งเขียนเกี่ยวกับ "จอมยุทธ์" หรือ "นักการเมือง" ที่เคลื่อนไหว ก่อการ ก่อตัว รวบรวมผู้คน อยู่นอกระบบ อันจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองการปกครองได้บ่อยๆ เมื่อจีนได้ควบคุมสื่อเรียบร้อยแล้ว เราจึงไม่เห็นหนังกำลังภายใน สร้างและฉายกันอย่างเสรีอีก รัฐบาลจีนได้เข้ามามีบทบาทในการสร้างหนังเอง ลงทุนเอง และกำหนดเนื้อหาเรื่องราวต่างๆ เอง ไม่ใช่แต่เพียงหนัง เ่ท่านั้น ยังมีสื่ออื่นๆ อีกมากมาย เช่น เกมคอมพิวเตอร์, เกมออนไลน์ ฯลฯ ที่แทรกคติความเชื่อ เรื่องการกำเนิดโลก, กำเนิดชนชาติ, กำเนิดประเทศจีน ฯลฯ เป็นต้น และถ้าต่อเรื่องราวมาอีกหน่อยว่าหลังจากนั้น ชาวจีนก็แพร่ขยายออกไปทั้งเอเชีย เรียกว่า กลุ่มคนไต บ้าง มาอยู่เมืองไทยบ้าง เวียดนามบ้าง อย่างนี้ไม่เท่ากับกำลังจะบอกว่าบรรพบุรุษคนไทยเป็นคนจีนไปเลย ซึ่งถ้าทำให้เชื่อเช่นนี้ได้ มันก็จะง่ายต่อการ "กลืนเงียบ" แล้ว ใช่ไหมละครับ เพราะประวัติศาสตร์ไทยเรา ย้อนหลังไปได้ไม่ถึง ๑,๐๐๐ ปี นัก คำถามมันก็เกิดขึ้นแล้วว่า "ก่อนหน้า ๑,๐๐๐ ปีละ เราเป็นใครอยู่ไหน?" ถ้ามีคนจีนมาตอบให้เราว่า เราก็คือเชื้อสายของชาวจีนที่อพยพมาละ ด้วยเพราะประัวัติศาสตร์จีนได้ค้นพบและบันทึกเอาไว้ มีหลักฐานมากมาย อย่างนั้นอย่างนี้ ฯลฯ เต็มไปหมด ไม่เชื่อก็ไปดูที่ "พิพิธภัณฑ์ลูกหลานแดนมังกร" ได้ ที่สุพรรณบุรี จะได้ทราบว่า "บรรพบุรุษชาวสุพรรณบุรี" ไม่ใช่พระนารายณ์องค์เล็ก องค์เก่าเสียแล้ว กลายเป็น "มังกรยักษ์" ที่ล้อมศาลหลักเมืองไปเรียบร้อยแล้ว แล้วไอ้ที่พูดเหน่อกันนี่ มันเป็นไผ๋กันละ? อีกหน่อยก็คงไม่มี!


เห็นไหมละครับ เขามาแล้ว ทำแล้ว และวางตัวหมาก ตัวกระทำ ไว้เรียบร้อยหมดแล้ว อีกหน่อยก็จะเอา "หมากที่ใช้แล้วทิ้ง" มาทำลายสถาบันกษัตริย์ซะ ที่นี้ ประวัติศาสตร์ชาติก็ถูกตัดแต่รากถอนโคนไปหมด จบเห่เลย เราไม่มีประวัติศาสตร์แบบนั้นแล้ว แบบพระนารายณ์มาเกิดเป็นกษัตรย์น่ะ หมดเกลี้ยง จากนั้น เขาก็จะเอา "หมากขุนตัวใหม่" นักวางยุทธศาสตร์ความเชื่อ "ว่าบรรพบุรุษไทยคือชาวไต ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากคนจีน" มาวางรากฐานความเชื่อ สอนพวกเรา ล้างสมองพวกเรา แล้วก็จะเอา "เทพมังกร" มาแทน เป็นบรรพบุรุษเรา เป็นโคตรพ่อ โคตรแม่เรา ฮ่าๆๆ เป็นไงละครับ ยุทธการกลืนเงียบ ไอ้เราก็ชอบอยู่แล้วด้วยสิ ซึ่งคงไม่ใ่ช่แต่เรา ประเทศไทยหรอก ใครที่เหมือนๆ จีนหน่อย มันก็ง่าย โดนกลืินไปหมดแล้ว เช่น ธิเบต, ฮ่องกง อีกหน่อยก็ ไต้หวัน, เวียดนาม, พม่า, ลาว, กัมพูชา ฯลฯ มันก็ไม่ยากหรอก ประเทศเหล่านี้ พร้อมยอมรับอยู่แล้วนี่ครับ ทีนี้ เรามาดู "หนังจีน" กันหน่อยว่าเดี๋ยวนี้ มันเปลี่ยนไปอย่างไร แค่ไหน? เช่น หนังเรื่อง The promise อันนี้ เนื้อหามี "คนใส่หน้ากากไปฆ่ากษัตริย์" ด้วย เป็นไงละ เรื่อง "เทพกระบี่พิชิตมาร" อันนี้ สุดยอด ผมก็ชอบสุดๆ เลย ในนั้นก็มีเนื้อหาหลักธรรมของเต๋า แทรกอยู่เต็มไปหมด (สังเกตุว่าจีนคอมมิวนิสต์ตอนนี้ ให้น้ำหนักกับเต๋ามากกว่าลัทธิขงจื้อนะครับ อาจเป็นเพราะว่าเต๋าเป็นรากฐานของลัทธิขงจื้ออีกที) เขาจะเน้นมากเรื่อง "เจ้าแม่หนี่วาสร้างโลก" แล้วเจ้าแม่หนี่วาเป็นใคร ถ้าไม่รู้ก็ตอบง่ายๆ คือ "คนจีน" นั่นแหละ รู้แค่นี้ ตอบถูกแล้ว ดังนั้น "โลกจึงเป็นสมบัติของคนจีน" ไงครับ ง่ายดีไหม? แต่ว่าอย่าเพิ่งไปดูถูกเนื้อหาเรื่องราวเขาก่อนละ เพราะมันมีสัจธรรมความจริงบางอย่างอยู่ เพียงแต่ว่ามันอาจจะไม่ได้นำไปสู่ปัญญา แต่มันอาจถูกนำมาใช้เพื่อ "ล้างสมอง" และ "สร้างความเื่ชื่อใหม่" ให้คนคล้อยตามว่า "ไทยและประเทศอื่นๆ ในเอเชียเป็นส่วนหนึ่งของจีน" ก็แค่นั้นเอง เอาละ วันนี้ แค่ให้ข้อสังเกตุในสื่อต่างๆ ที่มาจากประเทศจีน จริงๆ แล้วมันสนุกและมันมาก (แหม ถ้านั่งดูหนัง ก็ได้อารมณ์ อินกันสุดๆ) เพราะยังมี "สื่อจากประเทศอื่นๆ" เช่น เกาหลี ที่เก่งเรื่อง "การปั้นแต่ง, เสริมแต่ง" ประวัติศาสตร์ของตัวเองมาก คงเพื่อให้ตัวเองเป็นอิสระจากจีน นั่นเอง แล้วเราละ ยังมีหนังเก่าย้อนไปได้อย่างมากแค่ยุคของพระนเรศวรเท่านั้นเอง หนังจักรๆ วงศ์ๆ ของเรา พวกนิทานปรัมปรานั้น มีมานานแล้ว แต่มันอาจหมายถึง "ประว้ัติศาสตร์ที่เล่าเป็นนิทาน" สอนลูกหลานให้จดจำ มาแต่ครั้งยุคก่อนประวัติศาสตร์ "สุโขทัย" ก็เป็นได้! (แต่มันคงได้ผลแต่กับเด็กที่โง่ๆ ซื่อๆ หรือเอ๋อไปเลย ที่เชื่อนิทานว่าเป็นความจริงเท่านั้น!) เอาละ ในบทความฉบับหน้า เราอาจจะได้มาวิจารณ์กันเรื่อง "สื่อ" กัน โดยเฉพาะ "หนัง" ของประเทศอื่นๆ เช่น หนังของเกาหลี, ฮ่องกง, ไต้หวัน ฯลฯ กันบ้าง สำหรับบทความฉบับนี้ นั้น ขอจบลงเท่านี้ สวัสดีครับ ...



0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น